Mobil 1™ – ประสิทธิภาพที่ผ่านการพิสูจน์แล้วสำหรับรถยนต์ที่ติดตั้งระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ
ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเป็นอีกระบบวิศวกรรมที่เป็นการตอบสนองต่อข้อบังคับด้านอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเทคโนโลยีนี้กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกามีการใช้เทคโนโลยีระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติในสายการผลิตทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สี่ประตูรถบรรทุกเล็กและรถระดับหรู ตามข้อมูลจาก Navigant Research คาดการณ์ว่าภายในปี 2024 ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติจะเริ่มมีการใช้งานกันทั่วไปเป็นสัดส่วน 55 เปอร์เซ็นต์ของรถทั้งหมดที่จำหน่ายในสหรัฐฯ การเข้าใจองค์ประกอบของเทคโนโลยีสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติคือสิ่งที่ควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
การพิสูจน์เทคโนโลยีหล่อลื่นของ โมบิล 1 ในห้องปฏิบัติการ
วิศวกรของ เอ็กซอนโมบิล มีการศึกษาเทคโนโลยีหล่อลื่นของน้ำมันหล่อลื่น โมบิล 1 กับระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติภายใต้รอบการทำงานที่ 300,000 รอบ เป้าหมายของวิศวกรคือเพื่อกำหนดเงื่อนไขการทำงานที่หนักหน่วงตามสภาพแวดล้อมจริงระหว่างอายุการใช้งานของรถเพื่อให้สามารถประเมินประสิทธิภาพและคุณสมบัติด้านการปกป้องของน้ำมันหล่อลื่น โมบิล 1 ให้ได้แม่นยำเมื่อรถต้องทำงานภายใต้ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ
หลังจากจำลองการขับขี่เป็นระยะทาง 120,000 ไมล์โดยยืดระยะเวลาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อลื่นที่ยาวเป็นพิเศษและมีการสตาร์ทและดับเครื่องประมาณ 80 รอบต่อวัน วิศวกรของ เอ็กซอนโมบิล พบว่า โมบิล 1 5W-30 มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีเยี่ยมในการป้องกันการสึกหรอภายใต้การสตาร์ทและดับเครื่องยนต์ที่สร้างภาระให้กับเครื่องอย่างสูง
ทุกครั้งที่ดับเครื่องจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิง: การประหยัดเชื้อเพลิงด้วยระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ
ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเน้นที่หลักการง่ายๆเพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงความหมายมีอยู่ในชื่อทั้งหมด: "สตาร์ทและดับเครื่องยนต์" เช่นตอนคุณหยุดรถยนต์สนิทเมื่อเจอสัญญาณไฟแดงเครื่องยนต์จะดับลงจากนั้นเมื่อไฟเขียวและคุณปล่อยเท้าจากเบรกเครื่องยนต์จะเริ่มทำงานอีกครั้งอย่างรวดเร็วทำให้ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทุกครั้งที่ตัดการทำงานของเครื่องยนต์และใช้น้ำมันหล่อลื่นน้อยกว่าเนื่องจากเวลาที่เครื่องยนต์เดินเบาน้อยลง
อย่างไรก็ตามกาารคาดการณ์ผลกระทบของเทคโนโลยีสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติต่อค่า ไมล์ต่อแกลลอน มีองค์ประกอบที่ต้องพิจารณาอีกหลายอย่างสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่ติดตั้งระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ การประหยัดเชื้อเพลิงยังเกิดขึ้นได้จากอีกหลายปัจจัยทั้งนี้ข้อมูลการประเมินอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงจาก Environmental Protection Agency (EPA) ไม่ได้มีการพิจารณาปัจจัยเอื้อจากระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเข้าไปด้วยในค่า ไมล์ต่อแกลลอนที่ได้แจ้งไว้ องค์ประกอบอื่นๆเช่น สภาพแวดล้อมในการขับขี่และรูปแบบการขับขี่เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่า ไมล์ต่อแกลลอน วิศวกรหลายรายคาดว่าค่า ไมล์ต่อแกลลอน อาจเพิ่มขึ้น 3 - 10 เปอร์เซ็นต์ (เช่นค่า 20 ไมล์ต่อแกลลอน สำหรับการขับขี่ในเมืองอาจเพิ่มเป็น 22 ไมล์ต่อแกลลอน) จากปัจจัยเหล่านี้
การตอบสนองเงื่อนไขการทำงานของระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ
เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติจะต้องรับภาระมากกว่าเครื่องยนต์ปกติ ผู้ขับขี่รถปกติจะมีการสตาร์ทและดับเครื่องยนต์วันละประมาณหกถึงแปดครั้งแต่ผู้ขับขี่รถที่มีระบบสตาร์ทและดับเครื่องจะมีการสตาร์ทและดับเครื่องมากกว่านี้มาก รอบการสตาร์ทและดับเครื่องที่มากขึ้นส่งผลต่อส่วนประกอบหลายชิ้นไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์สตาร์ทไปจนถึงแบตเตอรี่และเพลาข้อเหวี่ยงของเครื่องยนต์
สตาร์ทเตอร์และแบตเตอรี่หลายชนิดสามารถทำงานร่วมกับระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติแต่เครื่องยนต์แบบสันดาปภายในยังคงทำงานเช่นเดิมทำให้ต้องมีการปกป้องมากขึ้นเนื่องจากภาระที่เพิ่มขึ้นต่อเพลาข้อเหวี่ยงและแบริ่งก้านสูบอันเนื่องจากมีการสตาร์ทและดับเครื่องบ่อยขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์บางรายมีการเคลือบผิวป้องกันแบบพิเศษให้กับแบริ่งเหล่านี้เพื่อลดปัญหาการสึกหรอที่อาจเพิ่มมากขึ้น
น้ำมันหล่อลื่นสูตรสังเคราะห์ขั้นสูงจาก โมบิล 1 ถูกคิดค้นมาเป็นพิเศษเพื่อลดการสึกหรอกับชิ้นส่วนที่สำคัญเหล่านี้